รีวิว 10 อันดับ โทรศัพท์ Android รุ่นไหนดี ปี 2021

โทรศัพท์ Android ที่ดีที่สุดจะมอบสิ่งที่สำคัญให้กับคุณ นั่นคือทางเลือกที่ตอบโจทย์ ไม่ว่าคุณจะมีงบเท่าไหร่ หรืออยากได้โทรศัพท์แบบไหน คุณก็มีหลายรุ่นที่เลือกซื้อได้ตามความต้องการ และยังสามารถเลือกโทรศัพท์ได้ตามคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ

ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด สามารถซื้อโทรศัพท์ Android ที่มีราคาต่ำกว่า 10,000 บาทได้ หากคุณมีงบประมาณมากขึ้นหน่อยที่ประมาณ 15,000 บาท ก็จะมีตัวเลือกต่าง ๆ พร้อมคุณสมบัติหลายอย่างที่ดีขึ้น โดยเฉพาะคุณภาพของกล้อง และสำหรับรุ่นยอดนิยม ก็มีประสิทธิภาพมากมาย ในราคาประมาณไม่เกิน 25,000 บาท อาจจะมีเสียงหรือกล้องถ่ายรูปไม่ดีเท่ารุ่นพรีเมียม แต่ก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม

• โทรศัพท์ iPhone ที่ดีที่สุด ที่คุณสามารถซื้อได้ในตอนนี้

โทรศัพท์ Android ระดับพรีเมียมที่เป็นรุ่นยอดนิยมส่วนใหญ่ จะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 25,000 บาทขึ้นไป มีจอแสดงผลที่คมชัดและสว่างที่สุด เทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ล้ำสมัยที่สุด และคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย เช่น การชาร์จแบบไร้สายระหว่างอุปกรณ์ (reverse wireless charging) และหน้าจอ 120Hz เป็นต้น หากคุณสนใจโทรศัพท์ที่มีระบบ 5G ก็มีตัวเลือกในราคาที่ถูกกว่า เช่น Pixel 4a 5G ถือเป็นเรื่องดีที่มีโทรศัพท์ Android มากมายมีการดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น

ลองอ่านรีวิวของเราด้านล่างเพื่อค้นหาโทรศัพท์ Android ที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ ในงบประมาณของคุณ

ทีมงานของเราที่ Pro Review ได้ทดสอบโทรศัพท์ Android ที่ได้รับความนิยมสูงสุดแต่ละรุ่น ทั้งในด้านรูปทรง ขนาด และราคา รุ่นที่เราแนะนำเป็นอันดับแรก คือ Galaxy S21 Ultra จาก Samsung ซึ่งมีจอแสดงผลที่ยอดเยี่ยม กล้องถ่ายภาพที่ทรงพลัง และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สำหรับการใช้งานในทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังเป็นโทรศัพท์ Galaxy S เครื่องแรกที่รองรับ S Pen (แยกจำหน่าย) ลำดับที่สองคือ OnePlus 9 Pro ซึ่งเป็นโทรศัพท์ Android ระดับพรีเมียมที่ยอดเยี่ยมอีกรุ่น

หากคุณต้องการโทรศัพท์ที่มีกล้องที่ดีที่สุดในราคาที่ถูกที่สุด เราขอแนะนำ Pixel 4a ของ Google กล้องรุ่นนี้มาจาก Pixels ระดับพรีเมียมของ Google โดยตรง มีจอแสดงผลที่ดีมาก และการออกแบบที่มีคุณภาพ ถือเป็นโทรศัพท์ที่คุ้มมาก ๆ ในราคาเริ่มต้นประมาณ 13,000 บาท และยังมีรุ่น Pixel 4a 5G เป็นอีกตัวเลือก หากคุณต้องการโทรศัพท์ 5G จาก Google และยังต้องการคุณภาพกล้องที่ดีที่สุดด้วย

หากคุณต้องการโทรศัพท์ราคาประหยัด พร้อมคุณสมบัติที่ครบถ้วน คุณอาจจะพึงพอใจกับ Moto G Power เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,000 บาท หากดูรุ่นพรีเมียม เราแนะนำ Galaxy Z Fold 2 ซึ่งมีราคาสูง ประมาณ 45,000 บาท เป็นโทรศัพท์แบบพับได้ที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมรอบด้าน

Galaxy S21 Ultra เป็นโทรศัพท์ Android ที่ดีมาก ๆ หากคุณอยากลงทุนกับโทรศัพท์มือถือเครื่องถัดไปของคุณด้วยงบประมาณตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป แม้จะมีราคาสูงส่ง แต่ S21 Ultra ก็มีราคาเปิดตัวน้อยกว่า Galaxy S20 Ultra ของปีที่แล้ว ดังนั้นคุณจะได้รับความคุ้มค่า รุ่น S21 Ultra จาก Samsung อัดแน่นด้วยคุณสมบัติการใช้งานระดับพรีเมียมมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ และเป็นรุ่นยอดนิยมรุ่นใหม่ล่าสุด

จอแสดงผล 6.8 นิ้วบน Galaxy S21 Ultra มีอัตราการรีเฟรชแบบไดนามิกที่ปรับขนาดอัตโนมัติระหว่าง 10Hz ถึง 120Hz ขึ้นอยู่กับประเภทการใช้งานในขณะนั้น กล้องมีเลนส์เทเลโฟโต้สองตัว ช่วยให้คุณเก็บรายละเอียดได้อย่างน่าทึ่งในการซูมเข้า และมีคุณสมบัติภาพถ่ายอื่น ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ ช่วยให้ S21 Ultra สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัด นอกจากนี้ยังเป็น Galaxy S เครื่องแรกที่รองรับ S Pen เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

Galaxy S21 Ultra มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่น ๆ มากมาย รวมถึงโปรเซสเซอร์ Snapdragon 888 ที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนระดับเดียวกัน แม้ว่า Pixel 4a อาจเป็นรุ่นที่มีราคาดีกว่า แต่ S21 Ultra ก็มีคุณสมบัติระดับพรีเมียมครบถ้วน

ทางแบรนด์ OnePlus เพิ่งเปิดตัว OnePlus 9 Pro ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่น่าประทับใจ เป็นโทรศัพท์ที่มีขนาดใหญ่ ดูสวยงาม และทรงพลังมาก สร้างความประทับใจให้กับทีมงานทดสอบของเราทุกด้าน ตั้งแต่จอแสดงผลที่สวยงาม ไปจนถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่และการชาร์จที่รวดเร็ว ประสบการณ์การใช้ซอฟต์แวร์ OxygenOS ก็ราบรื่นมาก ยังมีการปรับแต่งและคุณสมบัติมากมายที่จะช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างราบรื่น

รุ่นนี้ยังโทรศัพท์ที่มีกล้องถ่ายรูปที่ดีมากจากความร่วมมือครั้งใหม่กับ Hasselblad มีกล้องหลัก 48MP ถ่ายภาพที่ให้โทนสีเป็นธรรมชาติและช่วงไดนามิกที่ยอดเยี่ยม เซ็นเซอร์มุมกว้างพิเศษ 50MP เก็บรายละเอียดได้หมดจด มีเลนส์อิสระที่ด้านบน ปรับภาพมุมกว้างพิเศษให้สมดุล ไม่ผิดเพี้ยน ในส่วนของเลนส์เทเลโฟโต้ 8MP สามารถใช้การซูมออปติคอล 3.3x ซูมดิจิตอล 30x และ OIS ได้ การถ่ายวิดีโอก็เป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นเช่นกัน ด้วยความละเอียดสูงสุด 8K 30 FPS, 4K 120 FPS, DOL-HDR และโหมด Nightscape สำหรับการถ่ายในช่วงที่มีแสงน้อย

คุณจะพอใจกับคุณสมบัติที่ครบถ้วนของ OnePlus 9 Pro ที่แม้ว่าจะเป็นโทรศัพท์ OnePlus ที่แพงที่สุดในปัจจุบัน แต่ก็มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนคุ้มค่าจากกเงินที่จ่ายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับโทรศัพท์คู่แข่งในระดับใกล้เคียงกัน

Galaxy Note 20 Ultra ครองตำแหน่งโทรศัพท์ Android ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ยินดีจ่ายในราคาที่สูงขึ้น เพราะว่าอุปกรณ์รุ่นนี้เป็นมากกว่าโทรศัพท์ แต่เป็นทั้งสมุดจดบันทึกที่ทรงพลัง พร้อมการใช้งานกับ S Pen มากมาย มีกล้องระดับโปรที่มีเซ็นเซอร์ 108MP และการซูม 50x และยังเป็นคอนโซลเกมขนาดเล็กที่มีความสามารถในการสตรีมเกม Xbox ด้วย

สมาร์ทโฟน Note 20 Ultra รุ่นนี้ยังมีจอแสดงผลที่ดีที่สุด ด้วยหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 6.9 นิ้ว มีอัตราการรีเฟรชแบบไดนามิก 120Hz จึงทำงานได้อย่างชาญฉลาดและช่วยประหยัดแบตเตอรี่ 4,500 mAh ที่ใช้งานได้ยาวนาน คุณจะได้รับการชาร์จอย่างรวดเร็ว 25 วัตต์ โดยรวมแล้ว Galaxy Note 20 Ultra มีคุณสมบัติเหนือขั้นหลายอย่างมาก

หากคุณชื่นชอบคุณสมบัติบางอย่างที่ Samsung ออกแบบใน Galaxy S21 รุ่นใหม่ ๆ แต่ไม่อยากเสียเงินมากถึง 30,000 กว่าบาท โทรศัพท์ Galaxy S21 รุ่นดั้งเดิมก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ คุณจะเพลิดเพลินกับหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชแบบไดนามิก กล้องถ่ายรูปที่ยอดเยี่ยม และชิปเซ็ต Snapdragon 888 ที่พบในโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ ในตระกูล S21 แต่จะมีราคาเริ่มต้นถูกกว่าเพียง 24,000 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่า Galaxy S20 ของปีที่แล้ว

Samsung ได้ตัดคุณสมบัติบางอย่างออกเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลง เริ่มจากวัสดุที่ใช้สำหรับการออกแบบโทรศัพท์ แต่นั่นเป็นความแตกต่างเล็กน้อยเทียบกับประสิทธิภาพที่ทรงพลังในราคาไม่ถึง 25,000 บาท มีเลนส์ซูมที่ยอดเยี่ยมซึ่งใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ นี่จึงเป็นโทรศัพท์ที่ดีมาก ๆ หากคุณชื่นชอบการถ่ายภาพและวิดีโอ

Asus เปิดตัวโทรศัพท์เล่นเกมรุ่นล่าสุด คือ ROG Phone 5 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นโทรศัพท์ขนาดใหญ่ที่มีแบตเตอรี่ขนาด 6,000 mAh หน้าจอ AMOLED 6.78 นิ้วพร้อมอัตราการรีเฟรชที่ 144Hz ลำโพงด้านหน้าที่ทรงพลัง พอร์ต USB-C สองพอร์ต และซอฟต์แวร์มากมาย ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม

ด้วย ROG Phone 5 คุณจะได้รับหน่วยความจำสูงสุด 16GB และโปรเซสเซอร์ Android ที่ดีที่สุดอย่าง Snapdragon 888 ทุกอย่างในโทรศัพท์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกม รวมทั้งตำแหน่ง SoC และแบตเตอรี่แบบแยกสำหรับการชาร์จ 65W ที่เร็วขึ้น หากคุณต้องการคุณสมบัติอื่น ๆ มากกว่านี้ ก็มี ROG Phone 5 Pro ให้เลือก ซึ่งมีพื้นที่เก็บข้อมูล 512GB และ RAM 16GB หรือจะเลือก ROG Phone 5 Ultimate รุ่นลิมิเต็ด ที่มี RAM ขนาด 18GB เยอะจุใจ

การเปิดตัวรุ่นนี้จะเริ่มต้นในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายปี แต่โทรศัพท์จะมีการจำกัดเฉพาะบางเครือข่าย สิ่งที่ ROG Phone 5 ควรปรับปรุงคือประสิทธิภาพของกล้อง โดยเฉพาะการใช้โหมดกลางคืน ภาพถ่ายที่ได้อาจจะไม่น่าตื่นเต้นนัก แต่ถ้าคุณต้องการโทรศัพท์เครื่องนี้สำหรับการเล่นเกม ก็วางใจได้เลยว่าจะสนุกเพลิดเพลินมาก

การออกแบบโทรศัพท์แบบพับได้ในช่วงนี้มีความท้าทายหลายอย่าง เริ่มต้นจาก Galaxy Fold รุ่นดั้งเดิม ที่มีข้อเสียหลายอย่างและวัสดุที่ไม่ทนทานมากนัก แต่ Samsung ก็กลับไปแก้ไข ปรับแต่งการออกแบบจากรุ่นเก่าเพื่อผลิต Galaxy Z Fold 2 ออกมา กลายเป็นโทรศัพท์ที่ได้รับการพัฒนาข้อบกพร่องของรุ่นก่อน และยังมีคุณสมบัติใหม่ที่มีประโยชน์เข้ามาด้วย

คุณสมบัติที่ว่า ได้แก่ โหมด Flex ซึ่งใช้ประโยชน์จากบานพับที่เป็นอิสระของ Galaxy Z Fold 2 ทำให้อุปกรณ์อยู่ในตำแหน่งใดก็ได้ตามที่คุณปรับ มีการควบคุมแบบแยกหน้าจอที่กำหนดเองได้สำหรับการใช้แอปบางประเภท เช่น วิดีโอคอล ในขณะเดียวกัน Z Fold 2 ก็ยังมีคุณสมบัติพื้นฐานที่ครบถ้วน หน้าจอด้านนอกขยายขึ้นอย่างมาก ไม่มีกรอบแบบรุ่นดั้งเดิม มีแผงภายในที่ใหญ่ขึ้น และยังหุ้มด้วยกระจก Ultra-Thin ของ Samsung ทำให้มีความทนทานและราบรื่นในการสัมผัส

นวัตกรรมทั้งหมดนี้มาในราคาประมาณ 60,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สูง แต่ก็ไม่มีโทรศัพท์ Android ใดที่สามารถทำสิ่งที่ Galaxy Z Fold 2 ทำได้ในฐานะอุปกรณ์ที่รวมคุณสมบัติของโทรศัพท์และแท็บเล็ตได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แม้ว่ารุ่นนี้จะมีดีไซน์ไม่ค่อยหรูหราเท่ารุ่น Pro แต่ OnePlus 9 ก็ยังคงเป็นโทรศัพท์ที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคา คุณจะได้รับหน้าจอแบน 6.65 นิ้ว FHD+ 120 Hz ที่น่าทึ่ง กล้องมุมกว้าง 48MP และกล้องอัลตร้าไวด์ 50MP เช่นเดียวกับ OnePlus 9 Pro และยังมีโปรเซสเซอร์ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Android คือ Snapdragon 888

อายุการใช้งานแบตเตอรี่เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่สำคัญมาก ๆ ของรุ่นนี้ เพราะ OnePlus 9 ใช้ได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง 51 นาทีในการทดสอบแบตเตอรี่ของทีม Tom’s Guide ด้วยการเปิดใช้งานโหมด 120 Hz กล้องถ่ายภาพก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่า OnePlus 8T และโทรศัพท์ OnePlus รุ่นอื่น ๆ คุณจะได้รับภาพที่มีสีสันสดใส และช่วงไดนามิกที่แม่นยำยิ่งขึ้น น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่มีเลนส์เทเลโฟโต้

สิ่งที่โดดเด่นคือราคาของ OnePlus 9 เริ่มต้นที่ประมาณ 22,000 บาท สำหรับรุ่น 8GB / 128 GB คุณจะได้รับคุณสมบัติที่คุ้มค่ากับราคานี้ ซึ่งเป็นคู่แข่งอันดับต้น ๆ สำหรับโทรศัพท์ Android ของ Samsung

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่เอาชนะทุกรุ่นในด้านอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุดของโทรศัพท์ Android นั่นคือโทรศัพท์ Moto G Power สำหรับรุ่นปี 2021 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนมากนัก ยังคงใช้แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่เร็วกว่ารุ่นอื่นๆ Moto G Power (2021) ใช้งานได้นานกว่า 14 ชั่วโมงในการทดสอบแบตเตอรี่โดยทีมงานของเรา ซึ่งนานกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปประมาณ 4 ชั่วโมง

ทาง Motorola ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างหนึ่งกับ Moto G Power นั่นคือราคาของโทรศัพท์ แม้ว่าคุณจะยังสามารถซื้อโทรศัพท์รุ่นนี้ที่มีหน่วยความจำ 4GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 64GB ได้ในราคาประมาณ 7,500 บาท แต่คุณเลือกใช้ RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลน้อยลง ราคาจะลดลงเหลือประมาณ 6,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นราคาที่ดีมาก ๆ สำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน และใช้งานได้ต่ออีกหลังจากการชาร์จเพิ่มเพียงครั้งเดียว

หนึ่งในโทรศัพท์ Android ที่ดีที่สุด และมีราคาไม่แพงเกินไป

คุณอาจแปลกใจที่พบ Pixel 4a ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางของ Google เป็นอันดับต้น ๆ ในรายการรีวิวโทรศัพท์ Android ที่ดีที่สุดของเรา ด้วยราคาเพียง 13,000 บาท Pixel 4a เป็นสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบมากอย่างที่เราไม่เคยพบมาก่อน โดยเฉพาะในราคานี้

Pixel 4a ที่มีราคาเพียงครึ่งเดียวของ Pixel 5 หรือหนึ่งในสามของราคาโทรศัพท์หลายรุ่นที่ Samsung และ Apple วางจำหน่าย เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยมที่มีประสิทธิภาพมากมาย ทั้งซอฟต์แวร์ไร้ที่ติ ดีไซน์ขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวก มีความจุที่เก็บข้อมูลในตัวขนาด 128GB และจอแสดงผล OLED ขนาด 5.8 นิ้วที่สว่างสดใส

ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวของรุ่นนี้คืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ แต่ในด้านอื่น ๆ ก็ทำงานได้เกือบจะสมบูรณ์แบบ แถมยังมีช่องเสียบหูฟัง ถ้าซื้อโทรศัพท์แบบนี้ในปีที่แล้ว คุณอาจจะจ่ายมากกว่านี้ แต่ Pixel 4a กลายเป็นอุปกรณ์ในราคาปานกลางที่ไม่มีใครเทียบได้ในบรรดาโทรศัพท์ Android ด้วยกัน และยังมีคุณสมบัติมากมายเพิ่มขึ้นจาก Pixel 3a

รุ่นใหม่ของ Pixel 4a อาจจะอยู่ในการพัฒนา และ Pixel 5a ก็กำลังจะเปิดตัว แต่กว่าที่รุ่นใหม่ ๆ จะออกมาจำหน่าย ในตอนนี้คุณก็มีโทรศัพท์เครื่องนี้เป็น Android ที่ดีที่สุดที่คุณจะได้รับในราคาต่ำกว่า 15,000 บาท

หากคุณต้องการโทรศัพท์ 5G จาก Google คุณไม่จำเป็นต้องซื้อ Pixel 5 ก็ได้ เพราะคุณสมบัติที่ดีที่สุดทั้งหมดในรุ่นนี้มีทั้งการเชื่อมต่อ 5G และยังมีกล้องที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทดสอบของเรา Pixel 4a 5G รุ่นนี้ยังมีราคาถูกกว่าโทรศัพท์รุ่นยอดนิยมของ Google ประมาณ 5,000 บาท

แน่นอนว่าวัสดุจะไม่ดีเท่ารุ่นที่แพงกว่า และจะไม่สามารถกันน้ำได้เหมือนโทรศัพท์ 5G บางรุ่น หน้าจอ Pixel 4a 5G ไม่มีระบบรีเฟรชที่รวดเร็วมากนัก อย่างไรก็ตาม ขนาดหน้าจอแสดงผล 6.2 นิ้ว ก็ถือเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ล่าสุดของ Google ซึ่งในรุ่นนี้ยังเป็นการแสดงผลแบบ OLED ที่มีสีสันสดใส

กล้องถ่ายรูป ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่จะทำให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อโทรศัพท์ในตระกูล Pixel ซึ่ง Pixel 4a 5G ก็สามารถถ่ายรูปได้ดีเทียบเท่ากับ Pixel 5 ที่ใหม่กว่า (เพราะใช้ฮาร์ดแวร์เดียวกันและรองรับคุณสมบัติเดียวกัน) ดังนั้น Pixel 4a 5G จึงให้คุณรองรับการใช้งาน 5G ในอนาคตได้ตั้งแต่วันนี้ ในราคาที่ประหยัดกว่า

สิ่งแรกที่ต้องเริ่มทำเมื่อคุณตัดสินใจเลือกซื้อโทรศัพท์ Android ที่ดีที่สุด คือการตั้งงบประมาณ ซึ่งมีโทรศัพท์หลายรุ่นสำหรับแต่ละช่วงงบประมาณที่ต่างกัน โทรศัพท์ Android ที่ถูกที่สุดมีราคาต่ำกว่า 6,000 บาท และมีคุณสมบัติพื้นฐานสำหรับการใช้แอป ถ่ายภาพ และการเชื่อมต่อ

ถ้าคุณมีงบประมาณที่มากกว่านั้น ที่ราคา 15,000 บาท ก็จะมีตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น โปรเซสเซอร์ที่ดีขึ้น วัสดุคุณภาพสูงขึ้น และเลนส์กล้องอื่น ๆ ส่วนรุ่นที่มีราคา 22,000 บาทขึ้นไป ก็จะเป็นรุ่นยอดนิยมที่ดีที่สุดหลายรุ่น มาพร้อมกับการถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยและคุณสมบัติพิเศษหลายอย่าง

โทรศัพท์ Android ระดับพรีเมียมส่วนใหญ่ จะมีการออกแบบให้อุปกรณ์สามารถพับได้ โดยทั่วไปเราไม่รู้สึกว่าอุปกรณ์ประเภทนี้คุ้มราคามากนัก ยกเว้น Samsung Galaxy Z Flip รุ่นใหม่ซึ่งออกแบบให้เหมาะสมตามดีไซน์แบบ Galaxy Fold และมีราคาไม่แพงมากที่ประมาณ 40,000 บาท

การทดสอบสมาร์ทโฟนทุกรุ่น ทุกเครื่อง ของ Pro Review จะมีการทดสอบเป็นเวลาหลายวัน ทั้งในการใช้งานจริงและการเปรียบเทียบกับแอปสำหรับวัดประสิทธิภาพที่หลากหลาย ในแง่ของการทดสอบประสิทธิภาพ เราได้ใช้ซอฟต์แวร์ขั้นสูงเพื่อวัดความเร็วโดยรวมและวัดประสิทธิภาพกราฟิกที่ได้

ทีมงานของเรายังใช้การทดสอบการตัดต่อวิดีโอผ่าน Adobe Premiere Rush เพื่อจับเวลาในการแปลงคลิป ซึ่งเราใช้ทั้งบนโทรศัพท์ Android และ iPhone เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างกัน

เรายังใช้เครื่องวัดแสงเพื่อตรวจสอบคุณภาพการแสดงผล เช่น ความสว่างและความถูกต้องของสี รวมทั้งการทดสอบแบตเตอรี่ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของทีมงานเรา ที่กำหนดอายุการใช้งานจากการชาร์จด้วยการโหลดหน้าเว็บอย่างต่อเนื่องผ่านเครือข่าย 4G หรือ 5G ตามแต่ละรุ่น พร้อมกับการตั้งความสว่างหน้าจอ 150 นิต และพยายามใช้เครือข่ายเดียวกันในการทดสอบแต่ละครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เทียบเท่ากันในโทรศัพท์แต่ละรุ่น

สุดท้ายนี้ ทีมงานผู้ทดสอบของเราได้สำรวจการใช้ซอฟต์แวร์ ทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกม และทำการเปรียบเทียบกล้องกับโทรศัพท์มือถือของคู่แข่ง ปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมด คือข้อมูลที่เราใช้ในการตัดสินสำหรับการรีวิวที่ครอบคลุมของเรา

Write a Comment